
เมื่อ “เกมลับ” ที่ชวนคนมาท้าทายกลายเป็นสนามประหารสุดโหด… ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจะออกมาได้หรือไม่? ภาพยนตร์จิตวิทยาระทึกที่ผสมกลิ่นอายของ Saw และ The Cube แต่ดูง่ายกว่าและชวนลุ้นทุกนาที!
ข้อมูลเบื้องต้น
- ชื่อไทย: กักห้อง เกมโหด
- ชื่ออังกฤษ: Escape Room
- ผู้กำกับ: Adam Robitel (จาก Insidious: The Last Key)
- นักแสดงนำ: Taylor Russell, Logan Miller, Deborah Ann Woll, Jay Ellis, Tyler Labine, Nik Dodani
- แนวภาพยนตร์: ระทึกขวัญ / จิตวิทยา / สยองขวัญ
- ปีที่ฉาย: 2019
- เรตติ้ง IMDb: 6.4 / 10 (ดูที่ IMDb)
เรื่องย่อ (ไม่สปอยล์หนัก)
ภาพยนตร์เล่าถึง “กลุ่มคนแปลกหน้า 6 คน” ที่ได้รับกล่องปริศนาชวนให้มาเล่นเกม Escape Room สุดหรูซึ่งมีเงินรางวัลให้ผู้ชนะถึง 10,000 ดอลลาร์
แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องแรก ทุกอย่างกลับกลายเป็น “เกมเอาชีวิตรอด” ที่ออกแบบอย่างแยบยล — ทุกห้องคือกับดักที่สามารถฆ่าคนได้จริง และเบื้องหลังของมันมีความเชื่อมโยงกับ “อดีตอันมืดมน” ของผู้เล่นแต่ละคนอย่างน่าสะพรึง
สปอยล์เนื้อเรื่องแบบเต็ม
กลุ่มผู้เล่นประกอบด้วย Zoey (นักศึกษาสุดเนิร์ด), Ben (หนุ่มทำงานในร้านเหล้า), Jason (นักธุรกิจมั่นหน้า), Amanda (ทหารหญิงอดีตผู้รอดจากสงคราม), Mike (คนงานโรงงาน), และ Danny (หนุ่มช่างเทคนิคคลั่งเกม Escape Room)
เมื่อทุกคนรวมตัวในบริษัท “Minos Escape Rooms” พวกเขาคิดว่าเป็นเกมธรรมดา แต่ห้องแรกกลับกลายเป็นเตาอบยักษ์ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
Danny ตายเป็นคนแรกเพราะประตูล็อกขณะค้นหากุญแจ ส่วนคนอื่นรอดมาได้หวุดหวิด ห้องต่อมาคือ “ห้องน้ำแข็ง” ที่อุณหภูมิลดต่ำจนเกือบแข็งตาย — Mike เสียชีวิตเพราะตกลงไปในทะเลน้ำแข็ง
จากนั้นพวกเขาพบห้องบิลเลียดกลับหัวสุดหลอนที่มีหลุมลึกไม่มีที่สิ้นสุด Amanda เสียชีวิตเมื่อสละตัวเองให้เพื่อนรอด
ห้องต่อไปคือห้องโรงพยาบาล ซึ่งเปิดเผยว่าแต่ละคนคือ “ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว” จากเหตุการณ์สุดเลวร้ายในอดีต เช่น เครื่องบินตก รถชน ระเบิด ฯลฯ นั่นหมายความว่าผู้สร้างเกม “เลือก” พวกเขามาเพราะอยากดู “ใครจะรอดอีกครั้ง”
Jason ตายเพราะถูกแก๊สพิษ ส่วน Ben และ Zoey เป็นผู้รอดสุดท้าย
Ben เอาชนะห้องสุดท้าย “ห้องบาร์หมุน” ได้และถูกนำไปยังห้องพักสุดหรูเพื่อรับรางวัล แต่แล้วเขาพบความจริงว่า “เกมยังไม่จบ” เพราะ Minos จัดเกมนี้เป็นเพียงหนึ่งใน “การแสดง” ให้คนร่ำรวยดูผ่านกล้อง
Zoey ซึ่งแกล้งตายก่อนหน้า กลับมาช่วย Ben หนีออกจากสถานที่ลับขององค์กรได้สำเร็จ
หนังจบด้วยการเผยว่า Zoey ยังไม่ยอมแพ้ เธอสืบจนพบว่ามี “เกมใหม่” ที่เตรียมไว้ในเครื่องบิน และเธอตั้งใจจะเปิดโปงองค์กรนี้ให้ได้ในภาคต่อ
บทวิจารณ์
จุดแข็ง:
- ไอเดีย “เกมหนีตาย” ถูกนำเสนออย่างฉลาดและมีสไตล์ — แต่ละห้องมีเอกลักษณ์ทั้งดีไซน์และอารมณ์ เช่น ห้องร้อนจัด ห้องเยือกแข็ง ห้องกลับหัว
- จังหวะการเล่าเรื่องกระชับ ลุ้นตลอด ไม่มีช่วงยืดเยื้อ
- นักแสดงโดยเฉพาะ Taylor Russell (Zoey) ถ่ายทอดความกลัวและความกล้าพร้อมกันได้อย่างยอดเยี่ยม
จุดอ่อน:
- บทเฉลยขององค์กร “Minos” ยังดูไม่ลึกเท่าที่ควร ทำให้ตอนจบดูเหมือนแค่เปิดภาคต่อ
- ตัวละครบางตัวขาดมิติหรือไม่ได้รับการขยายอดีตมากพอให้คนดูอิน
โดยรวมแล้ว Escape Room (2019) คือหนังระทึกขวัญที่เล่นกับแนวคิด “เกมเอาชีวิตรอด” ได้อย่างสนุกและเข้มข้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังแนวจิตวิทยา–พัซเซิล–เอาชีวิตรอดแบบ Saw แต่ไม่โหดเลือดสาดเท่า เหมาะสำหรับดูได้ทุกสายระทึก!
ตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube
ที่มา: YouTube – Escape Room (2019) Official Trailer
สรุป
Escape Room (2019) เป็นหนังที่ใช้พล็อตเรียบง่ายแต่ขับเคลื่อนด้วยไอเดียและดีไซน์ฉากสุดสร้างสรรค์ เหมาะกับผู้ชมที่ชอบความลุ้นแบบเกมจิตวิทยา
แม้จะไม่ได้ลึกซึ้งเท่าหนังไซไฟหรือระทึกชั้นครู แต่ก็ทำหน้าที่ “ความบันเทิงลุ้นระทึก” ได้อย่างครบเครื่อง พร้อมทิ้งท้ายชวนรอติดตามภาคต่อ Escape Room: Tournament of Champions (2021) ได้อย่างลงตัว
