รีวิว The Wild Robot เดอะ ไวลด์ โรบ็อท (2024)

The Wild Robot เดอะ ไวลด์ โรบ็อท (2024)

หนังประเทศ : สหรัฐอเมริกา

เรื่องย่อ

The Wild Robot ดัดแปลงจากนิยายขายดีของ Peter Brown เล่าเรื่องของ “รอซ” (ROZZUM unit 7134) หุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงานอัตโนมัติ แต่เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้าล่ม ทำให้เธอถูกพัดเข้าฝั่งบนเกาะธรรมชาติที่ไร้ผู้คน รอซต้องเรียนรู้การเอาตัวรอดในโลกที่ไม่เหมือนโรงงาน และค่อย ๆ ค้นพบความหมายของชีวิตผ่านสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่บนเกาะ

เมื่อรอซได้ช่วยเหลือ “ไบรท์บิล” ลูกห่านกำพร้า เธอเริ่มเข้าใจคำว่า “ครอบครัว” และ “ความรัก” แม้จะเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อทำตามคำสั่งก็ตาม แต่โลกภายนอกไม่ยอมให้เธออยู่อย่างสงบ เมื่อองค์กรที่สร้างเธอตามมาทวงคืนเครื่องจักรที่หนีการควบคุมกลับไป

บทความรีวิว

The Wild Robot เป็นหนึ่งในแอนิเมชันที่อบอุ่นที่สุดของปี 2024 หนังผสมความแฟนตาซีเข้ากับธีมธรรมชาติอย่างลงตัว มีความคล้าย Wall-E ผสม The Iron Giant แต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง จุดเด่นคือบรรยากาศของเกาะที่ถูกถ่ายทอดสวยงามราวงานศิลปะ และความสัมพันธ์ระหว่างรอซกับไบรท์บิลที่ลึกซึ้งเกินคาด

แม้ตัวเอกจะเป็นหุ่นยนต์ แต่ความเป็น “แม่” ของรอซ ความอบอุ่น น้ำใจ และการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครได้ง่ายมาก หนังทำให้เราตระหนักถึงธรรมชาติ การอยู่ร่วมกัน และความหมายของการเป็น “สิ่งมีชีวิต” ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเกิดจากโลหะหรือเนื้อหนัง

สปอยล์เต็ม

รอซค่อย ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมสัตว์บนเกาะ เธอเลี้ยงดูไบรท์บิลจนห่านน้อยสามารถบินได้ และกลายเป็นตัวแทนของความหวังในหมู่สัตว์ป่า แต่แล้ววันหนึ่ง เครื่องจักรของบริษัทเจ้าของรอซถูกส่งมาจับตัวเธอกลับไป เธอยอมมอบตัวเพื่อปกป้องสัตว์ทั้งหมดไม่ให้โดนทำร้าย

ไบรท์บิลและสัตว์ทุกตัวรวมพลังช่วยกันจนรอซสามารถหลบหนี แต่สุดท้ายเธอตัดสินใจยอมกลับไปยังโลกมนุษย์ เพื่อหยุดองค์กรจากการส่งหุ่นยนต์มารบกวนธรรมชาติอีก เธอสัญญาว่าจะกลับมา และฉากสุดท้ายกลายเป็นภาพที่ทั้งเศร้าและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน

บทวิเคราะห์

หนังตั้งคำถามสำคัญว่า “อะไรทำให้บางสิ่งมีชีวิต?” รอซเป็นหุ่นยนต์ แต่เธอรัก ดูแล และเสียสละเหมือนแม่คนหนึ่ง ซึ่งสะท้อนว่าความเป็นมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย แต่อยู่ที่หัวใจ

หนังยังพูดถึงผลกระทบของเทคโนโลยีต่อธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง การล่าอาณานิคมของเครื่องจักร การกลัวความแตกต่าง และความจำเป็นของความสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม

เทคนิคการสร้างและงานภาพ

แอนิเมชันมีสไตล์ที่โดดเด่นมาก ผสมภาพลายเส้นแบบ Storybook เข้ากับแอนิเมชัน 3D ทำให้ทุกเฟรมเหมือนภาพวาดที่มีชีวิต สีสันของฤดูต่าง ๆ และการออกแบบธรรมชาติบนเกาะทำให้หนังดูอบอุ่นและสวยงามจนต้องชมซ้ำ

เสียงพากย์ของ Lupita Nyong’o ในบทรอซทำให้ตัวละครยิ่งมีมิติ อ่อนโยน และน่าเชื่อว่าหุ่นยนต์สามารถ “รัก” ได้จริง ๆ

บทวิจารณ์

The Wild Robot ได้รับคำชมทั่วโลกในฐานะหนังครอบครัวที่ทั้งลึกซึ้ง ซาบซึ้ง และมีสาระเกี่ยวกับธรรมชาติ เหมาะกับผู้ชมทุกวัย โดยเฉพาะคนที่ชอบหนังที่มีหัวใจและตั้งคำถามกับโลกแห่งเทคโนโลยียุคใหม่

ตัวอย่างภาพยนตร์

 

Author: veeraa

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *